สรุปบทที่ 3 BUSINESS ENVIRONMENT
การจัดการธุรกิจอิเล็คทรอนิกส์
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ จึงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่
1. สภาพแวดล้อมภายในธุรกิจ Internal Environment คือสภาวะแวดล้อมที่ธุรกิจสามารถควบคุมได้ หมายถึง ปัจจัยต่าง ๆ ที่ธุรกิจสามารถกําหนด และ ควบคุมได้เป็นไปตามความต้องการของธุรกิจถือว่าเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อโปรแกรมการตลาด โดยการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของธุรกิจ ในการนําไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน
2.สภาพแวดล้อมภายนอกธุรกิจ External Environment ภาวะแวดล้อมที่ธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้ปัจจัยกลุ่มนี้ หมายถึง ปัจจัยยังคับภายนอกธุรกิจที่มีอิทธิพลต่อระบบการตลาด ถือว่าเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได่แต่มีอิทธิพลต่อระบบการตลาด คือสร้างโอกาสหรืออุปสรรคแก่ธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย สิ่งแวดล้อมจุลภาค และสิ่งแวดล้อมมหภาค
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อการบริหารธุรกิจ

ปัจจัยภายในที่ควบคุมได้
- ส่งผลดีต่อธุรกิจจุดแข็ง (Strengths)
- ส่งผลร้ายต่อธุรกิจ
จุดอ่อน (Weaknesses)
ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
- ส่งผลดีต่อธุรกิจโอกาส (Opportunity)
- ส่งผลร้ายต่อธุรกิจ
อุปสรรค (Threats)
S (Strengths) จุดแข็ง
เป็นปัจจัยภายในที่สามารถควบคุมได้ตามศักยภาพของธุรกิจที่มีอยู่
W (Weaknesses) จุดอ่อน
เป็นปัจจัยภายในที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจ อันเนื่องมาจากการบริหารงานภายในที่ผิดพลาดเอง
O (Opportunities) โอกาส
เป็นปัจจัยภายนอกที่ธุรกิจไม่สามารถเข้าไปควบคุมให้เกิดหรือไม่เกิดได้ แต่กลับเป็นสถานการณ์แวดล้อมที่ส่งผลดีให้กับองค์กร
T (Threats) อุปสรรค
เป็นปัจจัยภายนอกที่ธุรกิจไม่สามารถเข้าไปควบคุมให้เกิด หรือ ไม่เกิดขึ้นได้ และเป็นสภาวการณ์แวดล้อมอันเลวร้ายที่ส่งผลกระทบให้ธุรกิจเสียหาย
การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ด้วย TOWS Matrix

SO = ใช้จุดแข็งบนโอกาสที่มี (Strengths) + (Opportunities)
WO = ขจัดจุดอ่อนโดยใช้โอกาส (Weaknesses) + (Opportunities)
ST = เอาจุดแข็งป้องกันอุปสรรค (Strengths) + (Threats)
WT = ขจัดจุดอ่อนป้องกันอุปสรรค (Weaknesses) + (Threats)
SO Strategy กลยุทธ์เชิงรุก การใช้จุดแข็งบนโอกาสที่มี ที่ได้จากการประเมินสภาพแวดล้อมที่เป็นจุดแข็ง และโอกาสมาพิจารณาร่วมกัน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุก
ST Strategy กลยุทธ์ิเชิงป้องกัน เป็นการใช้จุดแข็งและข้อจำกัดมาพิจารณาร่วมัน เพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์ในเชิงป้อกัน
WO Strategy กลยุทธ์เชิงแก้ไข เป็นการใช้ข้อมูลที่ได้จากสภาพแวดล้อมที่เป็นจุดอ่อนและโอกาศมาิพิจารณา เพื่อที่จะนำมากกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ หรือกลยุทธ์ในเชิงแก้ไข
WT Strategy กลยุทธ์เชิงรับ เป็นการใช้ข้อมูลสภาพแวดล้อมที่เป็นจุดอ่อน และข้อจำกัดมาพิจารณาร่วมกัน เพื่อที่จะำนำมากำหนดเป็นยุทธศาสตร์หรือยุทธศาสตร์ในเชิงรับ
Social Factor
สภาวะแวดล้อมทางสังคมเป็น ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างทางสังคมประกอบไปด้วย ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งในแต่ละสังคมก็จะมีทัศนคติทางสังคม ค่านิยม และวัฒนธรรม ที่ แตกต่างกันออกไปPolitical and Legal Factor
สภาวะแวดล้อมทางการเมืองและกฎหมาย เป็นปัจจัยสําคัญที่ส่งผลกระทบต่อนโยบายประกอบธุรกิจของประเทศ โดย เฉพาะประเทศไทยซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแบบผสมผสานพรรคบ่อยๆ นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะอ่อนไหวกับปัจจัยทาง การเมือง เพราะเกี่ยวข้องกับกฎหมายและมาตรการต่างๆ
Economic Factor
สภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ(Economic) เศรษฐกิจเป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นปริมาณการจัดสรรและการใช้ทรัพยากร ปัจจัยทางเศรษฐกิจมีแรงผลักดันที่สําคัญต่อการดําเนินงานขององค์กรธุรกิจ ซึ่งมีปัจจัยที่จะต้อง นํามาศึกษาหลายปัจจัย เช่นผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) นับได้ว่าเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความสําคัญ เนื่องจากเป็นการชี้นําว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไรและจะส่งผลกระทบต่ออํานาจในการบริโภคของประชากรโดยรวมในทิศทางใด
ค่าเงินบาท ธุรกิจที่เสียประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ส่งออกที่ใช้ทรัพยากรหรือวัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แต่ในทางกลับกันการแข็งค่าของค่าเงินบาทจะมีกลุ่มธุรกิจประเภทที่ต้องนําเข้าวัตถุดิบเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์โดยสาเหตุที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วมีอยู่ด่วยกันหลายปัจจัย
-อัตราการว่างงาน ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงานขึ้นในทุกประเทศ จากการรายงานของสํานักงาน สถิติแห่งชาติ พบว่า ภาวการณ์ทํางานของประชากรไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
-ภาวะรคาน้ํามัาน ความผันผวนของราคาน้ํามันที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่าไม่มีใครสามารถกําหนดราคาน้ำมันล่วงหน้าได้
-ปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ย เมื่อเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอัตราดอกเบี้ยจะขยับตัวสูงขึ้นทําให้ต้นทุนการผลิตของกิจการ หรืออุตสาหกรรมต่างๆ สูงขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้ามหากสภาพคล่องทาง การเงินมีมาก อัตราดอกเบี้ยจะลดต่ําลง ผู้คนในสังคมจะมีกําลังซื้อมากขึ้น สูงผลให้อุตสาหกรรมขยายตัว ธุรกิจต่างๆ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์ก็จะได้รับผลดีตามไปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น